ในคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือที่เรียกว่าอ้วนนั้น มักมีความต้องการที่จะลดน้ำหนักให้น้อยลง วิธีการที่ใช้กันมากที่สุดก็คือการลดหรือจำกัดอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย
สำหรับ ผู้ใหญ่ที่อ้วน ก็คงสามารถจะจำกัดอาหารได้ตามถนัด แต่ ในเด็กที่อ้วนการจำกัดอาหารเป็นวิธีที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากร่างกายและสมองของเด็กนั้นกำลังเจริญเติบโต การจำกัดอาหาร อย่างไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาระบบต่างๆ ของเด็กได้
สารอาหารสำคัญที่สุดต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
สำหรับเด็กทั่วไปสิ่งที่สำคัญที่สุดในการกินอาหารที่จะต้องปฏิบัติเป็นประจำคือการกินอาหารให้ได้สารอาหารครบ ๕ หมู่ ได้แก่
หมู่ที่ ๑ โปรตีน ได้จากอาหารประเภท เนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ นม และถั่ว อาหารประเภทนี้ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
หมู่ที่ ๒ คาร์โบไฮเดรต ได้จากอาหารประเภท ข้าว แป้ง เผือก มัน และน้ำตาล อาหารประเภทนี้ให้พลังงานแก่ร่างกาย
หมู่ที่ ๓ พืชผักต่างๆ ให้สารอาหารประเภทวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ช่วยเสริมสร้างการทำงาน ของร่างกาย และช่วยในการขับถ่าย
หมู่ที่ ๔ ผลไม้ต่างๆ ให้สารอาหารประเภทวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร รวมทั้งให้พลังงานเพราะในผลไม้มีน้ำตาล
หมู่ที่ ๕ ไขมัน ทั้งจากสัตว์และพืช ให้พลังงานและกรดไขมันที่จำเป็นแก่ร่างกาย
สาร อาหารเหล่านี้ช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้สมวัย ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งสิ่งที่จะตามมาคือความบกพร่อง ของร่างกายและสติปัญญา เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดังนั้นในทุกมื้ออาหารผู้ปกครองควรจะดูแลให้เด็กๆ กินอาหารครบถ้วน พอเพียง และหลากหลาย
หากว่าเป็น เด็กเล็กที่มีความอ้วนมากเกินไป จนเกิด โรคแทรกซ้อน เช่น หายใจลำบาก กระดูกพิการ เป็นต้น มีความจำเป็นที่จะต้องลดน้ำหนัก การจะลดอาหารจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเด็กในช่วงอายุ ๒ ขวบ เป็นช่วงสำคัญที่สมองกำลังเจริญเติบโต
รศ.พญ.อุมาพร สุทัศน์วรวุฒิ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้คำแนะนำว่า
" ในกรณีที่เป็นเด็กอายุน้อยกว่า ๒ ขวบ และเพิ่งเริ่มอ้วนหรืออ้วนเพียงเล็กน้อย เราแนะนำว่าให้กินอาหารเท่าเด็กปกติ คือเด็กที่อ้วนมักกินอาหารมากกว่าธรรมดา เมื่อเราให้เขากลับมากินอาหารเท่าเด็กปกติ แล้วเขาสูงขึ้น ซึ่งเด็กช่วง ๒ ขวบปีแรกจะสูงได้ค่อนข้างเร็ว จะทำให้ความอ้วนของเขาลดลง
ยกเว้นในกรณี ที่อ้วนมากจนเกิดผลแทรกซ้อน เช่น หายใจลำบาก ขาดออกซิเจน อย่างนี้เราจะต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาลและดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องจำกัดอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น แป้ง น้ำตาล น้ำมัน กะทิ เนย เพื่อให้เด็กที่อ้วนมากจนมีโรคแทรกได้รับพลังงานจากอาหารน้อยกว่าเด็กปกติ ที่สูงเท่ากัน แต่ไม่น้อยเกินไปจนเกิดอันตราย"
คุณหมอเน้นย้ำว่าเด็กที่อ้วนตั้งแต่เล็กๆ จะต้องอยู่ ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
" ในกรณีเด็กเล็ก การจำกัดอาหารเองอาจจะไม่ปลอดภัย ที่ว่าไม่ปลอดภัยก็คือมีผลเสียต่อการเติบโตและสมอง ในช่วงอายุ ๒-๔ ขวบเซลล์สมองของเด็กมีโอกาสเติบโตได้อีก ดังนั้นจึงควรระวังไม่ให้เด็กที่มีปัญหาเรื่องอ้วนเกิดการขาดสารอาหารจากการ รักษา แต่ถ้าเผื่อว่าเขาต้องจำกัดอาหาร ก็จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กไม่ขาดโปรตีน ไม่ขาด วิตามิน ไม่ขาดแร่ธาตุ เช่น เหล็ก สังกะสี แคลเซียมหรือสารอาหารอื่นๆ ที่จะมีผลต่อสมองและการเจริญเติบโตของเด็ก ควรมีการดูแลที่มั่นใจว่าเด็กถูกจำกัดอาหารเฉพาะพลังงานแต่อย่างอื่นครบ อาจจะต้องมีการเสริมวิตามินรวมถ้าจำกัดอาหารมาก"
ถ้าเป็นเด็ก อายุมากขึ้น คือเด็กวัยรุ่นหรือเด็กโตแล้ว ถ้าเผื่ออ้วนเล็กน้อย ควรแนะนำให้เขากลับมากินอาหารเท่าเด็กปกติ เพื่อให้น้ำหนักไม่เพิ่มหรือเพิ่มช้าแต่สูงขึ้นตามวัย ทำให้รูปร่างได้สัดส่วน แต่ถ้าเป็นเด็กที่อ้วนปาน-กลางหรืออ้วนมาก ก็จะต้องให้อาหารที่มีพลังงานน้อยกว่าเด็กปกติ คุณหมอแนะนำต่อว่า
" ในกรณีที่เด็กอ้วนมีอายุมากกว่า ๒ ขวบ ควรจะให้ดื่มนมที่มีไขมันต่ำ หรือนมพร่องมันเนย เพราะนมพร่องมันเนยให้สารอาหารที่มีประโยชน์ไม่ต่างจากนมธรรมดา ยกเว้นไขมันต่ำ เหมาะสำหรับเด็กอ้วนที่เราต้องการจะจำกัดไขมันในอาหารอยู่แล้ว แต่ควรเป็นนมพร่องมันเนยที่มีรสจืดด้วย เพราะถ้าเป็นนมพร่องมันเนยที่มีรสหวานก็ให้พลังงานไม่น้อย"