" เด็กอ้วนส่วนหนึ่งจะไม่กินผัก เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้เพิ่มผัก และควรแนะนำให้เอาผักมาทำอาหารที่ไขมันไม่มาก เช่น แกงจืด สลัดน้ำใส หรือผัดกับน้ำหรือน้ำมันเพียงเล็กน้อย เป็นต้น ไม่ใช่บอกให้กินผัก ก็ไปกินผัดผักเอาน้ำมันมาราดข้าว"
ต่อไปนี้คือวิธีการประกอบอาหารแบบที่ง่ายและเหมาะสมสำหรับที่จะลดความอ้วน
ผัดผัก (ด้วยน้ำ)
เอา น้ำพอสมควรตั้งไฟให้เดือด แล้วใส่เนื้อไม่ติดมัน ลงไป เนื้อที่ไม่ติดมันนี้ก็ยังมีน้ำมัน อาจจะเคยสังเกตว่าเวลาเราเอาเนื้ออกไก่หรือว่าเนื้อหมูเนื้อสันในใส่ลงไปใน น้ำจะมีมันออกมา เพราะว่าในเนื้อไม่ติดมันประมาณ ๒ ช้อนโต๊ะ จะมีน้ำมันประมาณ ๑ ช้อนชา ที่เรามองไม่เห็น เพราะฉะนั้นพอเราเอาเนื้อที่ไม่ติดมันใส่ลงไปในน้ำที่ร้อนจัด ใส่ผักสดลงไป ผัดจนสุก ปรุงรสพอสมควร อย่าให้หวาน ก็จะได้อาหารอร่อยแต่มีพลังงานต่ำ
นอก จากรายการนี้แล้วยังมีอาหารจานอื่นๆ ที่หลีกเลี่ยงไขมันได้ เช่น แกงจืด เกาเหลา ต้มจับฉ่าย สุกียากี้ สลัดน้ำใส ยำ รายการเหล่านี้ทุกจานเน้นผัก
คุณหมอกล่าวว่า ในอาหารทุกมื้อควรจะมีผักสักหนึ่งทัพพี จึงจะเหมาะสม นอกจากนั้นจะต้องปฏิบัติดังนี้คือ
" อาหารอย่างอื่นคือพวกข้าวและแป้ง ควรลดลง ปกติเด็กโตและผู้ใหญ่จะกินข้าวมื้อละประมาณ ๒-๓ ทัพพี เด็กอ้วนอาจจะกินมื้อละ ๑-๒ ทัพพี แล้วแต่ความสูง ต้องลดอาหารที่มีการทอด ผัด หลีกเลี่ยงอาหารที่ ใช้กระทะ อาหารที่ทำจะต้องไม่หวาน ใช้รสธรรมชาติ พยายามที่จะไม่ให้มีรสจัด ไม่ว่าจะหวานจัด เค็มจัด สำหรับเนื้อสัตว์ต้องย้ำว่าให้กินเป็นประจำ แต่ละมื้อ ให้มากพอเพียงกับความต้องการ เช่น มื้อละประมาณ ๒-๔ ช้อนโต๊ะ และดื่มนมวันละประมาณ ๒ แก้วทุกวัน
ขอย้ำว่า เด็กที่ลดความอ้วนโดยผิดวิธีจะไม่ได้ผล เช่น กินแต่ผลไม้ทั้งวัน ซึ่งจริงๆ แล้วผลไม้มีน้ำตาล ยิ่งกินมากก็ยิ่งอ้วน จึงควรกินอาหารครบทุกหมู่ ผลไม้ไม่ควรกินมาก อาจจะวันละสัก ๒ ครั้งหรือ ๓ ครั้ง ครั้งละประมาณ ๑ ทัพพีเท่านั้นก็พอ นอกจากนี้ไม่ควรอดอาหารเป็นมื้อๆ เพราะจะขาดอาหารหรือหิวมากในมื้อถัดไปหรือปวดท้อง"
นี่คือวิธี ปฏิบัติที่ไม่ยากสำหรับการลดความอ้วนในเด็ก เพียงแต่ผู้ปกครองจะต้องมีความระมัดระวังในเรื่องอาหารการกิน ตั้งแต่สิ่งที่เด็กกินไปจนกระทั่งถึงกรรมวิธีที่ใช้ในการปรุงอาหาร และถ้าจะให้ดีที่สุด ควรที่จะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจำกัดอาหาร ของบุตรหลานที่เป็นโรคอ้วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอันเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของสมอง และร่างกายของเด็ก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น